พระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์เพชรกลับหรือสะดุ้งกลับ

พระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์สะดุ้งกลับหรือเพชรกลับ พระกริ่งปวเรศองค์นี้สร้างปี พ.ศ.๒๓๘๐ ซึ่งเป็นปีที่พระวชิรญาณเถระได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสอันดับหนึ่งแห่งวัดบวร(ต่อมาได้ลาผนวชในวันที่ ๖ เมษายน และทรงรับการบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคมเพื่อขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ ๔ และทรงได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยโดยย่อว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.๒๓๙๔)
พระกริ่งปวเรศที่สร้างในปี พ.ศ. ๒๓๘๐ อธิษฐานจิตปลุกเสกโดย พระวชิรญาณเถระ เจ้าอาวาสแห่งวัดบวร หลวงปู่โต กรมพระยาปวเรวริยาลงกรณ์และพระคณาจารย์อีกหลายท่าน จึงมีพลังพุทธานุภาพสูงมาก โดยเฉพาะพระกริ่งปวเรศที่สร้างในปี พ.ศ ๒๓๘๐ ที่มีจารอักขระและปี พ.ศ.กำกับไว้ด้วย
พระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์สะดุ้งกลับ ตามตำราการสร้างพระเครื่อง บอกถึงการสร้างพระสะดุ้งกลับไว้ เป็นพระที่สร้างได้ยาก เป็นการทดลองวิชาด้านพุทธาคมขั้นสูง หากผู้สร้างกระแสจิตไม่กล้าแข็งในการปลุกเสก มักจะต้องเสียจริตจิตวิปลาสไปในทันที ต้องใช้บทคาถาท่องอนุโลมและปฏิโลม ส่งผลทางพุทธคุณ ทางด้านการสะท้อนสิ่งร้ายๆให้กลับกลายเป็นดี จากที่ดีก็ยิ่งจะเพิ่มสิ่งดีๆทวีคูณยิ่งๆขึ้น อานุภาพป้องกันขจัดปัดเป่า ภัยพิบัติต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกราย หนุนดวงชะตาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นคติว่า...ไปได้กลับได้ (ไม่ตายโหง)การแผ่กระแสจิต ยอกย้อนกว่าการปลุกเสกธรรมดา การถ่ายทอดพลังจิตลงในองค์พระเครื่อง ทำได้ยากลำบากกว่า มีกรรมวิธีสร้างไว้เฉพาะแบบ ทั้งละเอียดทั้งพิสดาร พุทธคุณพระสะดุ้งกลับนั้น แรงกล้าอย่างยิ่ง สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มีพระกลับเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ คนดวงไม่ดีหรือมีเคราะห์ร้าย ก็คลายสิ้น กลับหนักเป็นเบา
พระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์สะดุ้งกลับจารอักขระ
หลังองค์พระจาร “นะชาลีติ”
บัวหลังด้านซ้ายบนจาร”นะมะ” บัวหลังด้านขวาบนจาร”พะทะ”
บัวหลังด้านซ้ายล่างจาร”จะพะ” บัวหลังด้านซ้ายล่างจาร”กะสะ”
พระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์สะดุ้งกลับเนื้อสัมฤทธิ์
ก้นพระกริ่งลึกแบบครกบดยา จารอักขระ
สิ่งที่ไม่เคยเห็นใช่ว่าจะไม่มี แม้แต่พระสมเด็จวัดระฆังที่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ของหลายชมรม เพราะพระสมเด็จวัดระฆังก็ไม่มีตำราการสร้างทั้งหมด มีแต่หนังสือที่ใครๆก็สามารถเขียนขึ้นมาได้ทั้งที่เชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ ข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ครบถ้วนจึงเกิดเป็นกลุ่มยึดถือพิมพ์ทรง อีกฝ่ายยึดถือมวลสารความเก่าของเนื้อพระ อีกฝ่ายก็บอกว่าต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่น่าเชื่อถือได้หลักการพิจารณาก็มีมากขึ้นฯ
ข้อคิด พระกริ่งปวเรศเนื้อนวกลับดำที่มีการพูดถึงกันว่ามีประมาณ 30-33 องค์ พระกริ่งปวเรศสร้างเพื่อมอบให้เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ราชนิกุล จำนวนพระกริ่งปวเรศประมาณ 30 องค์ที่อยู่ในครอบครองของเศรษฐี คหบดี ทหารและตำรวจชั้นนายพล ลองพิจารณาดูนะครับว่าพระกริ่งปวเรศที่อยู่ในครอบครองของเจ้านายผู้ใหญ่ทั้ง 30 องค์ตกมาอยู่กับเศรษฐี นายทหารนายตำรวจได้อย่างไร คือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดที่ครอบครองพระกริ่งปวเรศอยู่นั้นถึงคราวตกอับพร้อมกันที่ต้องนำพระกริ่งปวเรศ พระกริ่งประจำตระกูลออกมาปล่อยหาเงินมาใช้มาชำระหนี้หรืออย่างไร เรื่องนี้น่าคิดนะครับ
ท่านใดที่สนใจบูชาพระกริ่งปวเรศยุคต้นพิมพ์สะดุ้งกลับ โทรติดต่อคุยกัน ถ้าท่านถูกโฉลกกับพระกริ่งปวเรศองค์นี้ท่านอาจสัมผัสกับพลังของพระองค์นี้ได้ครับ